SVI เล็งซื้อกิจการบริษัทวิจัยพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์รับแผนรุกขยายตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรมสื่อสารยุค 5Gหวังผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเองช่วยอัพกำไรต่อหน่วยเป็นเลข 2 หลัก
บมจ.เอสวีไอ (SVI) เดินเกมรุกตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการสื่อสารยุค 5G รับเมกะเทรนด์โลก ประกาศลงทุนในเบื้องต้น 100 ล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถการผลิตสู่กลุ่มอุปกรณ์รับส่งข้อมูลความเร็วสูง 100-200 กิกะบิตต่อวินาที พร้อมเล็งซื้อกิจการบริษัทวิจัยและออกแบบผลิตภัณฑ์ หวังพัฒนาสินค้าภายใต้แบรนด์บริษัทฯ ดันอัตรากำไรต่อหน่วยเพิ่มขึ้นเป็นเลข 2 หลัก และผลักดันการเติบโตเฉลี่ยของรายได้จากผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้มากกว่า 10% ต่อปี
นายสมชาย สิริปัญญานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการแบบครบวงจรในการประกอบผลิตภัณฑ์ประเภทวงจรไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป ให้แก่ลูกค้าในภาคอุตสาหกรรมที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ต้นแบบ (Original Equipment Manufacturer: OEM) เปิดเผยว่า SVI มองเห็นโอกาสขยายตลาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการสื่อสารระบบ 5G ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง จากเม็ดเงินการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีด้านการสื่อสารที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตให้แก่อุตสาหกรรมต่างๆ ในอนาคตที่ได้ประโยชน์จากการสื่อสารไร้สาย เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ, อุตสาหกรรมการแพทย์ที่ใช้ AI วินิจฉัยโรคและรักษาคนไข้, อุตสาหกรรมออโตเมชั่นในภาคการผลิต เป็นต้น
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น SVI จะใช้เงินลงทุน 100 ล้านบาท เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุปกรณ์รับส่งข้อมูลความเร็วสูงได้ถึง 100-200 กิกะบิตต่อวินาทีที่ใช้ในอุตสาหกรรม 5G เช่น Optical transceiver หรืออุปกรณ์ตัวรับส่งสัญญาณความเร็วสูง อุปกรณ์สร้างแสงเลเซอร์ในไฟเบอร์ออฟติกและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กับระบบคลาวด์ของ Data Center ล้วนเป็นอุปกรณ์สำคัญต่อการรองรับปริมาณการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงจำนวนมากทั้งสิ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนก้าวสู่ผู้พัฒนาอุปกรณ์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีการสื่อสารยุค 5G โดยต้องการเข้าลงทุนในบริษัทวิจัยและออกแบบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอุปกรณ์ 5G ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ช่วยเพิ่มอัตรากำไรต่อหน่วยที่ดีขึ้นเป็นเลข 2 หลัก จากปัจจุบันที่เป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ภายใต้แบรนด์ของลูกค้าเพื่อจำหน่ายยังตลาดสหรัฐอเมริกาและจีน
“เราจะก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มอุปกรณ์รับส่งข้อมูลความเร็วสูง 100-200 กิกะบิตต่อวินาทีในอุตสาหกรรม 5G ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ทุกอุตสาหกรรมในโลกอนาคตเพื่อก้าวสู่การเป็นสังคม IOT ที่จะมีปริมาณการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงจำนวนมากผ่านเครือข่าย5G จากการเชื่อมโยงระหว่างอุปกรณ์และอุปกรณ์ ซึ่งจะทำให้ความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ในกลุ่มดังกล่าวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเม็ดเงินลงทุนที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเรามีเป้าหมายการเติบโตของรายได้จากกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรม 5G เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี จากปีนี้คาดว่าจะมีรายได้กลุ่มนี้ประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 1,500 ล้านบาท” นายสมชาย กล่าว